การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

กราฟแท่งเทียน (K / Candlestick Chart) คืออะไร

กราฟแท่งเทียน (K  / Candlestick Chart) คืออะไร?

กราฟแท่งเทียนเป็นเครื่องมือแผนภูมิที่นิยมใช้ในตลาดการเงิน เพื่อแสดงข้อมูลความผันผวนของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด แท่งเทียนแต่ละแท่งแสดงถึงช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น 1 นาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง, 1 วัน เป็นต้น)

แท่งเทียนมาตรฐานประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้:

ตัวแท่ง (Body): ส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แสดงช่วงราคาเปิด (Open) และราคาปิด (Close)

แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candle): ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด โดยทั่วไปตัวแท่งจะเป็นสีขาวหรือสีเขียว

แท่งเทียนขาลง (Bearish Candle): ถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด โดยทั่วไปตัวแท่งจะเป็นสีดำหรือสีแดง

ไส้เทียนบน (Upper Shadow/Wick): เส้นบางๆ ที่ยื่นออกจากด้านบนของตัวแท่ง แสดงราคาสูงสุด (High) ในช่วงเวลานั้นๆ กับราคาปิด (สำหรับแท่งเทียนขาขึ้น) หรือราคาสูงสุดกับราคาเปิด (สำหรับแท่งเทียนขาลง)

ไส้เทียนล่าง (Lower Shadow/Wick): เส้นบางๆ ที่ยื่นออกจากด้านล่างของตัวแท่ง แสดงราคาต่ำสุด (Low) ในช่วงเวลานั้นๆ กับราคาเปิด (สำหรับแท่งเทียนขาขึ้น) หรือราคาต่ำสุดกับราคาปิด (สำหรับแท่งเทียนขาลง)

คำอธิบายภาพที่ 1: กราฟแท่งเทียนมาตรฐาน

ภาพควรแสดงแท่งเทียนขาขึ้นหนึ่งแท่ง (เช่น สีเขียว) และแท่งเทียนขาลงหนึ่งแท่ง (เช่น สีแดง)

แต่ละแท่งเทียนควรมีป้ายกำกับแสดงตำแหน่งของราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Close), ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low)

แท่งเทียนขาขึ้นมีราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนขาลงมีราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด

รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns)

รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวคือรูปแบบของแท่งเทียนที่ปรากฏหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาตามแนวโน้มที่ชัดเจน โดยส่งสัญญาณว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจกำลังจะสิ้นสุดลงและราคาอาจจะกลับตัว การทำความเข้าใจรูปแบบเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจับจังหวะการเข้าเทรดที่อาจเป็นไปได้

ต่อไปนี้คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่พบบ่อยในตลาดฟอเร็กซ์:

1. รูปแบบกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal Patterns) (ปรากฏหลังแนวโน้มขาลง บ่งชี้ว่าราคาอาจจะปรับตัวสูงขึ้น)

แท่งเทียนค้อน (Hammer):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาลง

ตัวแท่งมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะอยู่บริเวณส่วนบนของแท่งเทียนทั้งหมด

ไส้เทียนล่างยาวมาก อย่างน้อยสองเท่าของความยาวตัวแท่ง

ไส้เทียนบนสั้นมากหรือไม่มีเลย

หลักการเกิด: ในแนวโน้มขาลง ราคาตกลงอย่างมาก แต่จากนั้นมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง ดึงราคาขึ้นไปปิดใกล้เคียงกับราคาเปิด แสดงว่ามีแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่ด้านล่าง

ข้อสังเกต: ยิ่งไส้เทียนล่างยาว และตัวแท่งเล็กเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: โดยทั่วไปพิจารณาเข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนถัดไปหลังจากแท่งเทียนค้อนได้รับการยืนยันแล้ว (ปิดเป็นแท่งเขียวเหนือตัวแท่งค้อน) หรือเมื่อราคาทะลุราคาสูงสุดของแท่งเทียนค้อนขึ้นไป สัญญาณยืนยัน อาจเป็นแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งเขียวและปิดเหนือตัวแท่งของแท่งเทียนค้อน

คำอธิบายภาพที่ 2: แท่งเทียนค้อนขาขึ้น

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาลง ตามด้วยแท่งเทียนค้อน

ตัวแท่งเทียนค้อนมีขนาดเล็ก (อาจเป็นแท่งเขียวหรือแท่งแดงก็ได้ แต่แท่งเขียวจะแข็งแกร่งกว่า) อยู่ด้านบน

ไส้เทียนล่างยาวมาก

แท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งเขียวที่ชัดเจน ปิดเหนือตัวแท่งของแท่งเทียนค้อน ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยัน

รูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาขึ้น (Bullish Engulfing):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาลง

ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง

แท่งเทียนที่สองเป็นแท่งเขียวที่ตัวแท่งกลืนกิน (ครอบคลุม) ตัวแท่งของแท่งเทียนแดงแท่งแรกทั้งหมด (บางครั้งอาจไม่รวมไส้เทียนก็ได้)

หลักการเกิด: แท่งเทียนแดงแท่งแรกแสดงว่าแรงขายยังคงควบคุมตลาด แต่แท่งเทียนเขียวที่แข็งแกร่งแท่งที่สองได้ครอบคลุมแท่งแรกทั้งหมด แสดงว่าแรงซื้อเข้ามาอย่างฉับพลันและพลิกสถานการณ์

ข้อสังเกต: ยิ่งตัวแท่งเขียวแท่งที่สองมีขนาดใหญ่และกลืนกินแท่งแดงได้หมดจดเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: โดยทั่วไปพิจารณาเข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนถัดไปหลังจากรูปแบบกลืนกินขาขึ้นได้รับการยืนยันแล้ว (ปิดเหนือราคาสูงสุดของรูปแบบ) หรือเมื่อราคาทะลุราคาสูงสุดของรูปแบบกลืนกินขึ้นไป สัญญาณยืนยัน อาจเป็นแท่งเทียนถัดไปปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

คำอธิบายภาพที่ 3: รูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาขึ้น

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาลง ตามด้วยแท่งเทียนสองแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งแดง

แท่งที่สองเป็นแท่งเขียวที่ชัดเจน โดยที่ตัวแท่งครอบคลุมตัวแท่งของแท่งแดงแท่งแรกทั้งหมด

แท่งเทียนถัดมาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยัน

รูปแบบดาวรุ่ง (Morning Star):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาลง

ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งแดงยาวที่ชัดเจน สานต่อแนวโน้มขาลง

แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนที่มีตัวแท่งขนาดเล็กมาก (อาจเป็นแท่งเขียวหรือแท่งแดงก็ได้) โดยทั่วไปจะมีช่องว่าง (Gap) ลงจากแท่งแรก ตำแหน่งของแท่งนี้จะต่ำกว่าแท่งแรกอย่างเห็นได้ชัด

แท่งที่สามเป็นแท่งเขียวที่ชัดเจน ปรับตัวขึ้นไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของตัวแท่งแดงแท่งแรก

หลักการเกิด: แท่งแดงแท่งแรกสานต่อแนวโน้มขาลง แท่งเล็กๆ แท่งที่สองแสดงว่าแรงขายเริ่มอ่อนแรงลง เกิดความลังเลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย แท่งเขียวที่แข็งแกร่งแท่งที่สามแสดงว่าแรงซื้อกลับมาควบคุมสถานการณ์

ข้อสังเกต: ยิ่งตัวแท่งที่สองมีขนาดเล็ก และมีช่องว่างจากแท่งก่อนหน้าและแท่งถัดไปมากเท่าไหร่ และยิ่งตัวแท่งเขียวแท่งที่สามมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: โดยทั่วไปพิจารณาเข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนถัดไปหลังจากรูปแบบดาวรุ่งก่อตัวเสร็จสิ้น หรือเมื่อราคาทะลุราคาสูงสุดของแท่งเขียวแท่งที่สามขึ้นไป

คำอธิบายภาพที่ 4: รูปแบบดาวรุ่ง

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาลง ตามด้วยแท่งเทียนสามแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งแดงยาว

แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก มีช่องว่างลงมาจากแท่งแดงแท่งแรก

แท่งที่สามเป็นแท่งเขียวยาว ปรับตัวขึ้นไป ปิดเหนือครึ่งหนึ่งของตัวแท่งแดงแท่งแรก

2. รูปแบบกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal Patterns) (ปรากฏหลังแนวโน้มขาขึ้น บ่งชี้ว่าราคาอาจจะปรับตัวต่ำลง)

แท่งเทียนคนแขวนคอ (Hanging Man):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาขึ้น

ตัวแท่งมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะอยู่บริเวณส่วนบนของแท่งเทียนทั้งหมด

ไส้เทียนล่างยาวมาก อย่างน้อยสองเท่าของความยาวตัวแท่ง

ไส้เทียนบนสั้นมากหรือไม่มีเลย

หลักการเกิด: ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาตกลงอย่างมาก แต่จากนั้นมีแรงซื้อดึงราคาขึ้นไปปิดใกล้เคียงกับราคาเปิด แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่งอยู่ด้านบน แม้ว่าราคาปิดจะสูง แต่ไส้เทียนล่างที่ยาวบ่งบอกถึงความเปราะบางของแนวโน้ม

ข้อสังเกต: ยิ่งไส้เทียนล่างยาว และตัวแท่งเล็กเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: แท่งเทียนคนแขวนคอเป็นเพียงสัญญาณเตือน ต้องรอสัญญาณยืนยัน คือแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งแดงและปิดต่ำกว่าตัวแท่งของแท่งเทียนคนแขวนคอ จากนั้นจึงพิจารณาเข้าขาย

คำอธิบายภาพที่ 5: แท่งเทียนคนแขวนคอขาลง

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาขึ้น ตามด้วยแท่งเทียนคนแขวนคอ

ตัวแท่งเทียนคนแขวนคอมีขนาดเล็ก (อาจเป็นแท่งเขียวหรือแท่งแดงก็ได้) อยู่ด้านบน

ไส้เทียนล่างยาวมาก

แท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งแดงที่ชัดเจน ปิดต่ำกว่าตัวแท่งของแท่งเทียนคนแขวนคอ ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยัน

รูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาลง (Bearish Engulfing):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาขึ้น

ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง

แท่งเทียนที่สองเป็นแท่งแดงที่ตัวแท่งกลืนกิน (ครอบคลุม) ตัวแท่งของแท่งเทียนเขียวแท่งแรกทั้งหมด (บางครั้งอาจไม่รวมไส้เทียนก็ได้)

หลักการเกิด: แท่งเทียนเขียวแท่งแรกแสดงว่าแรงซื้อยังคงควบคุมตลาด แต่แท่งเทียนแดงที่แข็งแกร่งแท่งที่สองได้ครอบคลุมแท่งแรกทั้งหมด แสดงว่าแรงขายเข้ามาอย่างฉับพลันและพลิกสถานการณ์

ข้อสังเกต: ยิ่งตัวแท่งแดงแท่งที่สองมีขนาดใหญ่และกลืนกินแท่งเขียวได้หมดจดเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: โดยทั่วไปพิจารณาเข้าขายเมื่อแท่งเทียนถัดไปหลังจากรูปแบบกลืนกินขาลงได้รับการยืนยันแล้ว (ปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของรูปแบบ) หรือเมื่อราคาทะลุราคาต่ำสุดของรูปแบบกลืนกินลงไป สัญญาณยืนยัน อาจเป็นแท่งเทียนถัดไปปรับตัวต่ำลงต่อเนื่อง

คำอธิบายภาพที่ 6: รูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาลง

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาขึ้น ตามด้วยแท่งเทียนสองแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งเขียว

แท่งที่สองเป็นแท่งแดงที่ชัดเจน โดยที่ตัวแท่งครอบคลุมตัวแท่งของแท่งเขียวแท่งแรกทั้งหมด

แท่งเทียนถัดมาปรับตัวต่ำลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยัน

รูปแบบดาวตก (Evening Star):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาขึ้น

ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งเขียวที่ชัดเจน สานต่อแนวโน้มขาขึ้น

แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนที่มีตัวแท่งขนาดเล็กมาก (อาจเป็นแท่งเขียวหรือแท่งแดงก็ได้) โดยทั่วไปจะมีช่องว่าง (Gap) ขึ้นจากแท่งแรก ตำแหน่งของแท่งนี้จะสูงกว่าแท่งแรกอย่างเห็นได้ชัด

แท่งที่สามเป็นแท่งแดงที่ชัดเจน ปรับตัวลงไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของตัวแท่งเขียวแท่งแรก

หลักการเกิด: แท่งเขียวแท่งแรกสานต่อแนวโน้มขาขึ้น แท่งเล็กๆ แท่งที่สองแสดงว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลง เกิดความลังเลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย แท่งแดงที่แข็งแกร่งแท่งที่สามแสดงว่าแรงขายกลับมาควบคุมสถานการณ์

ข้อสังเกต: ยิ่งตัวแท่งที่สองมีขนาดเล็ก และมีช่องว่างจากแท่งก่อนหน้าและแท่งถัดไปมากเท่าไหร่ และยิ่งตัวแท่งแดงแท่งที่สามมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: โดยทั่วไปพิจารณาเข้าขายเมื่อแท่งเทียนถัดไปหลังจากรูปแบบดาวตกก่อตัวเสร็จสิ้น หรือเมื่อราคาทะลุราคาต่ำสุดของแท่งแดงแท่งที่สามลงไป

คำอธิบายภาพที่ 7: รูปแบบดาวตก

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาขึ้น ตามด้วยแท่งเทียนสามแท่ง

แท่งแรกเป็นแท่งเขียวยาว

แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก มีช่องว่างขึ้นมาจากแท่งเขียวแท่งแรก

แท่งที่สามเป็นแท่งแดงยาว ปรับตัวลงไป ปิดต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของตัวแท่งเขียวแท่งแรก

แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star):

ลักษณะรูปแบบ:

ปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มขาขึ้น

ตัวแท่งมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะอยู่บริเวณส่วนล่างของแท่งเทียนทั้งหมด

ไส้เทียนบนยาวมาก อย่างน้อยสองเท่าของความยาวตัวแท่ง

ไส้เทียนล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย

หลักการเกิด: ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงมาก แต่จากนั้นมีแรงขายเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง ดึงราคาลงมาปิดใกล้เคียงกับราคาเปิด แสดงว่ามีแนวต้านที่แข็งแกร่งอยู่ด้านบน

ข้อสังเกต: ยิ่งไส้เทียนบนยาว และตัวแท่งเล็กเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด: แท่งเทียนดาวตกเป็นเพียงสัญญาณเตือน ต้องรอสัญญาณยืนยัน คือแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งแดงและปิดต่ำกว่าตัวแท่งของแท่งเทียนดาวตก จากนั้นจึงพิจารณาเข้าขาย

คำอธิบายภาพที่ 8: แท่งเทียนดาวตกขาลง

ภาพควรแสดงแนวโน้มขาขึ้น ตามด้วยแท่งเทียนดาวตก

ตัวแท่งเทียนดาวตกมีขนาดเล็ก (อาจเป็นแท่งเขียวหรือแท่งแดงก็ได้) อยู่ด้านล่าง

ไส้เทียนบนยาวมาก

แท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งแดงที่ชัดเจน ปิดต่ำกว่าตัวแท่งของแท่งเทียนดาวตก ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยัน

วิธีแยกแยะรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว?

การแยกแยะรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวต่างๆ ต้องสังเกตจุดสำคัญดังนี้:

ตำแหน่งที่ปรากฏ: รูปแบบกลับตัวต้องปรากฏที่ส่วนท้ายของแนวโน้มที่ชัดเจน (ส่วนบนของแนวโน้มขาขึ้น หรือส่วนล่างของแนวโน้มขาลง) เท่านั้น หากปรากฏในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ รูปแบบที่คล้ายกันมักจะไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นสัญญาณการกลับตัวที่น่าเชื่อถือ

จำนวนแท่งเทียน: รูปแบบกลับตัวบางรูปแบบประกอบด้วยแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว (เช่น แท่งเทียนค้อน, แท่งเทียนคนแขวนคอ, แท่งเทียนดาวตก) ในขณะที่บางรูปแบบประกอบด้วยสองแท่ง (เช่น รูปแบบกลืนกิน) หรือสามแท่ง (เช่น รูปแบบดาวรุ่ง, รูปแบบดาวตก)

ลักษณะของแท่งเทียน: ให้ความสำคัญกับความยาวและสีของตัวแท่ง ความยาวของไส้เทียน และความสัมพันธ์ระหว่างแท่งเทียน (เช่น การกลืนกิน, ช่องว่างราคา)

ปริมาณการซื้อขาย (Volume): แม้ว่าไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มการซื้อขายจะมีข้อมูลปริมาณการซื้อขาย แต่ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ หากสามารถวิเคราะห์ร่วมกับปริมาณการซื้อขายได้ โดยทั่วไปหากรูปแบบกลับตัวปรากฏพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มความเป็นไปได้ในการกลับตัวมากขึ้น

เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด

หลังจากระบุรูปแบบการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ เวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุดมักจะต้องรอสัญญาณยืนยัน รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันได้ว่าแนวโน้มจะกลับตัวอย่างแน่นอน

รูปแบบกลับตัวแบบแท่งเดียว (แท่งเทียนค้อน, แท่งเทียนคนแขวนคอ, แท่งเทียนดาวตก):

รอการยืนยันจากแท่งเทียนถัดไป สำหรับแท่งเทียนค้อนขาขึ้น แท่งเทียนถัดไปควรเป็นแท่งเขียวและปิดเหนือตัวแท่งของแท่งเทียนค้อน สำหรับแท่งเทียนคนแขวนคอและแท่งเทียนดาวตกขาลง แท่งเทียนถัดไปควรเป็นแท่งแดงและปิดต่ำกว่าตัวแท่งของแท่งเทียนนั้นๆ

เทรดเดอร์ที่ชอบความเสี่ยงอาจพิจารณาเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุจุดสูงสุด (สำหรับรูปแบบขาขึ้น) หรือจุดต่ำสุด (สำหรับรูปแบบขาลง) ของแท่งเทียนกลับตัว แต่มีความเสี่ยงสูงกว่า

รูปแบบกลับตัวแบบสองหรือสามแท่ง (รูปแบบกลืนกิน, รูปแบบดาวรุ่ง, รูปแบบดาวตก):

โดยทั่วไปจะเข้าเทรดเมื่อเปิดแท่งเทียนถัดไปหลังจากรูปแบบก่อตัวเสร็จสิ้น

เทรดเดอร์ที่ระมัดระวังมากขึ้นอาจรอให้ราคาทะลุจุดสูงสุดของรูปแบบ (สำหรับขาขึ้น) หรือจุดต่ำสุดของรูปแบบ (สำหรับขาลง) ก่อนที่จะเข้าเทรด

โปรดจำไว้ว่า อย่าทำการซื้อขายโดยไม่มีการตั้งค่า Stop Loss เสมอ วาง Stop Loss ไว้เหนือหรือใต้จุดสำคัญของรูปแบบการกลับตัว เช่น จุดต่ำสุดของแท่งเทียนค้อน จุดสูงสุด/ต่ำสุดของรูปแบบกลืนกิน เป็นต้น

การกลับตัวหลอก (Whipsaws)

การกลับตัวหลอกคือสถานการณ์ที่ราคาดูเหมือนจะสร้างรูปแบบการกลับตัว แต่จากนั้นราคาก็กลับไปเคลื่อนไหวตามแนวโน้มเดิม นี่เป็นปรากฏการณ์ที่พบบ่อยในการซื้อขาย เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับตัวหลอกให้ได้มากที่สุด ควรสังเกตสิ่งต่อไปนี้:

การยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น: หากมีข้อมูลปริมาณการซื้อขาย ให้สังเกตว่าปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่เมื่อเกิดรูปแบบการกลับตัว ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของการกลับตัวได้

การใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วย: อย่าพึ่งพาเพียงรูปแบบแท่งเทียน ให้วิเคราะห์ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ (เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average), ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI), MACD, Fibonacci Retracement เป็นต้น) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

สังเกตกรอบเวลาที่ยาวขึ้น: รูปแบบการกลับตัวที่ปรากฏในกรอบเวลาที่ยาวขึ้นมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าที่ปรากฏในกรอบเวลาที่สั้นกว่า

รอการยืนยันอย่างอดทน: อย่ารีบร้อนเข้าเทรดทันทีที่เกิดรูปแบบการกลับตัว การรอสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียนถัดไปเป็นสิ่งสำคัญ

ทำความเข้าใจบริบทของตลาด: การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ข่าวสารที่ไม่คาดคิด อาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาและทำให้รูปแบบทางเทคนิคใช้ไม่ได้ผล

รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวในตลาดฟอเร็กซ์เป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิค การเรียนรู้การระบุลักษณะ รูปแบบการเกิด และเวลาเข้าเทรดที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือทางเทคนิคหรือรูปแบบใดที่แม่นยำ 100% มีความเสี่ยงของการกลับตัวหลอกอยู่เสมอ ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องตั้งค่า Stop Loss ที่เหมาะสมและควบคุมขนาด Position ให้ดี

หวังว่าคำอธิบายและคำอธิบายภาพประกอบนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวในตลาดฟอเร็กซ์ได้ดียิ่งขึ้น! ขอแนะนำให้คุณฝึกฝนการสังเกตและสรุปผลจากการดูกราฟจริงบ่อยๆ ครับ

发表评论

您的邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注

滚动至顶部