พื้นที่น่าสนใจในตลาดฟอเร็กซ์ (Point of Interest – POI) คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?
พื้นที่น่าสนใจ (Point of Interest – POI) ในตลาดฟอเร็กซ์ หมายถึง บริเวณราคาบนกราฟที่นักเทรดคาดการณ์ว่าราคาอาจมีการตอบสนอง (เช่น กลับตัว หรือเกิดการพักตัว) เมื่อราคาเคลื่อนที่กลับมาถึงบริเวณนั้น POI เหล่านี้มักเป็นบริเวณที่มีการซื้อขายอย่างมีนัยสำคัญในอดีต และอาจบ่งบอกถึงระดับราคาที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายรายใหญ่สนใจ
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
POI สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทางเทคนิค รวมถึง:
แนวรับแนวต้านที่แข็งแกร่ง (Strong Support and Resistance Levels): ระดับราคาที่ในอดีตเคยเป็นจุดที่ราคาหยุดการเคลื่อนที่และกลับตัวหลายครั้ง บ่งบอกถึงแรงซื้อหรือแรงขายที่แข็งแกร่งในบริเวณนั้น
แนวโน้ม (Trendlines): เส้นที่เชื่อมต่อจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของราคา ซึ่งแสดงถึงทิศทางหลักของการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อราคาเคลื่อนที่กลับมาสัมผัสเส้นแนวโน้ม อาจเกิดการตอบสนองตามทิศทางของแนวโน้ม
รูปแบบราคา (Chart Patterns): รูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนกราฟราคา (เช่น Head and Shoulders, Double Top/Bottom, Flags, Pennants) มักจะมีบริเวณที่นักเทรดให้ความสนใจเป็นพิเศษในการเข้าเทรด
ฟีโบนักชี (Fibonacci Retracement/Extension): ระดับฟีโบนักชีต่างๆ (เช่น 38.2%, 50%, 61.8%) มักถูกใช้เป็น POI เนื่องจากเป็นระดับที่นักเทรดจำนวนมากจับตามองเพื่อหาจุดกลับตัว
ออเดอร์บล็อก (Order Blocks): แท่งเทียนสุดท้ายก่อนการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วและมีนัยสำคัญ มักถูกมองว่าเป็นบริเวณที่มีคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่อยู่ และอาจเป็น POI ที่ราคาจะกลับมาทดสอบ
พื้นที่เสียสมดุล (Imbalance Zones): ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในคำถามก่อนหน้า พื้นที่ที่เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการซื้อขายมากนัก มักถูกมองว่าเป็น POI ที่ราคาอาจกลับมาเติมเต็ม
ลองดูภาพประกอบ:

ในภาพนี้ บริเวณที่ถูกเน้นด้วยสีเขียวคือ พื้นที่น่าสนใจ (POI) คุณจะเห็นว่าราคาในอดีตมีการตอบสนองบริเวณเหล่านี้ (เช่น หยุดการขึ้น/ลง หรือกลับตัว) ซึ่งทำให้นักเทรดคาดการณ์ว่าราคาอาจมีการตอบสนองอีกครั้งเมื่อกลับมาถึงบริเวณเหล่านี้
ข้อควรระวัง:
เมื่อคุณระบุพื้นที่น่าสนใจบนกราฟราคา มีข้อควรระวังดังนี้:
ไม่ใช่ทุก POI จะได้รับการเคารพ: ราคาอาจทะลุผ่าน POI ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีปัจจัยพื้นฐานหรือข่าวสารที่แข็งแกร่งสนับสนุนการเคลื่อนไหวในทิศทางนั้น
รอสัญญาณยืนยัน: การเข้าเทรดทันทีเมื่อราคาเข้าสู่ POI อาจมีความเสี่ยง ควรพิจารณารอสัญญาณยืนยันการกลับตัวหรือการพักตัวในบริเวณนั้นก่อน (เช่น รูปแบบแท่งเทียน, การเกิด Divergence ในอินดิเคเตอร์)
POI มีหลายระดับความแข็งแกร่ง: POI ที่ได้รับการทดสอบหลายครั้ง หรือเกิดจากปัจจัยทางเทคนิคหลายอย่างมาบรรจบกัน มักจะมีความแข็งแกร่งมากกว่า POI ที่เกิดจากปัจจัยเดียว
กรอบเวลา (Timeframe) มีความสำคัญ: POI ที่พบในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า มักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า POI ที่พบในกรอบเวลาที่เล็กกว่า
POI เป็นเพียง “ความน่าจะเป็น”: POI ไม่ใช่สิ่งที่รับประกันว่าราคาจะตอบสนองในทิศทางที่คุณคาดหวัง การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงการประเมินความน่าจะเป็น
บริหารจัดการความเสี่ยง: เช่นเดียวกับการเทรดทุกรูปแบบ การบริหารจัดการความเสี่ยง (เช่น การตั้ง Stop Loss) เป็นสิ่งสำคัญเมื่อทำการเทรดโดยอ้างอิงจาก POI
สรุป:
พื้นที่น่าสนใจ (POI) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุบริเวณราคาที่อาจมีการตอบสนอง อย่างไรก็ตาม การใช้ POI ควรทำร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดที่ประสบความสำเร็จ พึงระลึกเสมอว่าตลาดมีความไม่แน่นอน และไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ 100%