การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ช่วงอุปสงค์และอุปทาน (Supply and Demand Zones) คืออะไร

ช่วงอุปสงค์และอุปทาน (Supply and Demand Zones) คืออะไร?

ช่วงอุปสงค์ (Demand Zone) และช่วงอุปทาน (Supply Zone) เป็นบริเวณบนกราฟราคาที่แสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่หรือผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดได้ทำการซื้อขายในปริมาณมาก บริเวณเหล่านี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง

  • ช่วงอุปสงค์ (Demand Zone) หรือโซนซื้อ: คือบริเวณที่เกิดแรงซื้อ (Demand) มากกว่าแรงขาย (Supply) ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาปรับตัวลงมา และมีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาทำให้เกิดการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

  • ช่วงอุปทาน (Supply Zone) หรือโซนขาย: คือบริเวณที่เกิดแรงขาย (Supply) มากกว่าแรงซื้อ (Demand) ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวต่ำลง มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นไป และมีแรงขายจำนวนมากเข้ามาทำให้เกิดการปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว

ลักษณะสำคัญของช่วงอุปสงค์และอุปทาน:

  • การพักตัว (Consolidation): ก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง มักจะมีช่วงพักตัวหรือการ Sideways ของราคาเกิดขึ้น

  • การเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง (Imbalance): หลังจากช่วงพักตัว ราคามักจะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วและมีโมเมนตัมสูง โดยทิ้งช่องว่างราคา (Gap) หรือแท่งเทียนขนาดใหญ่ไว้

  • บริเวณที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม (Unmitigated Zones): เชื่อกันว่าบริเวณเหล่านี้ยังคงมีคำสั่งซื้อขายที่ยังไม่ได้รับการจับคู่ (Unfilled Orders) จำนวนมาก และราคาอาจกลับมาทดสอบบริเวณเหล่านี้อีกครั้งในอนาคต

ตัวอย่างพร้อมรูปภาพประกอบ:

1. ช่วงอุปสงค์ (Demand Zone)

ในภาพด้านบน จะเห็นว่าราคามีการปรับตัวลงมา จากนั้นเกิดช่วงพักตัว (สีเขียวอ่อน) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงซื้อสะสมอยู่ เมื่อราคาหลุดออกจากช่วงพักตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง บริเวณพักตัวนี้จึงกลายเป็นช่วงอุปสงค์ (Demand Zone) ที่มีศักยภาพ ในภายหลัง เมื่อราคากลับลงมาทดสอบบริเวณนี้อีกครั้ง ก็ได้รับการสนับสนุนและปรับตัวขึ้นไป

2. ช่วงอุปทาน (Supply Zone)

ในภาพด้านบน จะเห็นว่าราคามีการปรับตัวขึ้นไป จากนั้นเกิดช่วงพักตัว (สีเทา) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงขายสะสมอยู่ เมื่อราคาหลุดออกจากช่วงพักตัวลงมาอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง บริเวณพักตัวนี้จึงกลายเป็นช่วงอุปทาน (Supply Zone) ที่มีศักยภาพ ในภายหลัง เมื่อราคากลับขึ้นไปทดสอบบริเวณนี้อีกครั้ง ก็เผชิญกับแรงขายและปรับตัวลงมา

สิ่งที่ควรสังเกตหรือพิจารณาเมื่อใช้ช่วงอุปสงค์และอุปทานในการเทรด:

  • ตำแหน่งในโครงสร้างตลาด: ช่วงอุปสงค์ที่เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น และช่วงอุปทานที่เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง มักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า

  • ความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวออกจากโซน: การเคลื่อนไหวของราคาออกจากช่วงอุปสงค์หรืออุปทานที่รวดเร็วและมีโมเมนตัมสูง แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อหรือแรงขายที่แท้จริง

  • ระยะเวลาที่อยู่ในโซน: ช่วงอุปสงค์หรืออุปทานที่มีระยะเวลาการพักตัวสั้นๆ มักจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าช่วงที่มีการพักตัวนาน

  • การทดสอบโซน: เมื่อราคากลับมาทดสอบช่วงอุปสงค์หรืออุปทาน ควรสังเกตการตอบสนองของราคา หากราคามีการปฏิเสธบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าซื้อขายในทิศทางที่คาดการณ์ไว้

  • ความสดใหม่ของโซน (Freshness): ช่วงอุปสงค์หรืออุปทานที่ยังไม่เคยถูกทดสอบมาก่อน (Fresh Zones) มักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าโซนที่ถูกทดสอบมาหลายครั้งแล้ว

  • การซ้อนทับกับแนวรับแนวต้านอื่นๆ: หากช่วงอุปสงค์หรืออุปทานซ้อนทับกับแนวรับแนวต้านที่สำคัญอื่นๆ (เช่น Fibonacci Retracement, Pivot Points) ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโซนนั้น

  • การพิจารณากรอบเวลา: ช่วงอุปสงค์และอุปทานสามารถพบได้ในทุกกรอบเวลา การวิเคราะห์ในหลายกรอบเวลา (Multi-Timeframe Analysis) จะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของตลาดได้ดีขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ช่วงอุปสงค์และอุปทาน:

  • ไม่ใช่ทุกโซนจะได้รับการเคารพ: ราคาอาจทะลุผ่านช่วงอุปสงค์หรืออุปทานได้เสมอ ดังนั้น การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop Loss) ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • ขนาดของโซน: ช่วงอุปสงค์และอุปทานอาจมีขนาดแตกต่างกัน การระบุขอบเขตของโซนที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการซื้อขาย

  • การยืนยัน (Confirmation): ไม่ควรเข้าซื้อขายทันทีเมื่อราคาสัมผัสโซน ควรรอสัญญาณยืนยันอื่นๆ เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) หรือการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม

  • การบริหารความเสี่ยง: ควรกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

วิธีมองและใช้ประโยชน์จากช่วงอุปสงค์และอุปทานในการเทรด:

  1. ระบุช่วงอุปสงค์และอุปทานที่สำคัญ: มองหาบริเวณที่มีการพักตัวก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง

  2. วาดโซน: กำหนดขอบเขตของโซน โดยทั่วไปจะใช้ราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนสุดท้ายก่อนการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง

  3. รอราคากลับมาทดสอบโซน: อดทนรอให้ราคากลับมายังบริเวณที่เราได้ระบุไว้

  4. มองหาสัญญาณยืนยัน: สังเกตการตอบสนองของราคาเมื่อเข้าใกล้โซน และมองหาสัญญาณยืนยันการกลับตัว

  5. วางแผนการเข้าซื้อขาย: กำหนดจุดเข้า (Entry Point) จุดทำกำไร (Take Profit) และจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) โดยอ้างอิงจากโซนและสัญญาณยืนยัน

  6. บริหารความเสี่ยง: กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม

ช่วงอุปสงค์และอุปทานเป็นแนวคิดที่สำคัญในการวิเคราะห์ราคาและระบุบริเวณที่มีโอกาสเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม การทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้แนวคิดนี้ร่วมกับเครื่องมือและกลยุทธ์อื่นๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex

หวังว่าคำอธิบายนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับช่วงอุปสงค์และอุปทานได้ดียิ่งขึ้นนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ

发表评论

您的邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注

滚动至顶部